Autel เปิดตัวโดรนพกพารุ่นใหม่ EVO Nano ซีรี่ย์ โดรนขนาดเล็กกระทัดรัดพับเก็บได้ โดยเมื่อพับแล้วจะมีขนาดเล็กเพียงแค่ฝ่ามือเท่านั้น แถมยังมีน้ำหนักเบา เพียงแค่ไม่ถึง 250 กรัม ทำให้เป็นโดรนที่สามารถพกพาไปไหนก็ได้ ใช้งานสะดวก แต่เห็นเล็กๆ Mini แบบนี้ สเปกอัดแน่นจัดเต็ม ทั้งกล้อง ประสิทธิภาพการบิน และฟังก์ชั่นอัตโนมัติ ที่เทียบเท่าได้กับโดรนในระดับ Mid tier เลยทีเดียว

โดย Autel EVO Nano ซีรี่ย์ นั้นจะมีว่างจำหน่ายให้เลือกด้วยกันสองรุ่น คือ รุ่น Nano มาตรฐาน และรุ่น Nano+ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะมีประสิทธิโดยรวมและฟังก์ชันเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ Drone Office Store จะมารีวิวให้ทุกคนได้ชมกันครับ

สเปค EVO Nano และ Nano+

(Nano)
เซ็นเซอร์กล้อง 1/2" CMOS f/2.8
ความละเอียดภาพนิ่ง 48 ล้านพิกเซล

(Nano+)
เซ็นเซอร์กล้อง1/1.28'' CMOS f/1.9
ความละเอียดภาพนิ่ง 50 ล้านพิกเซล

น้ำหนักเพียง 249 กรัม
กิมบอลกันสั่น 3 แกน
บินได้นาน 28 นาที (ไม่มีลม)
บินไกลสุด 10 กิโลเมตร (ไม่มีสัญญาณรบกวน)
เซ็นเซอร์กันชน 3 จุด (หน้า, หลัง และล่าง)
โหมดขึ้นบินอัตโนมัติ Take-Off
โหมดบินกลับอัตโนมัติ Return Home
โหมดการบินอัตโนมัติ Rocket, Orbit, Flick, Fade Away
รองรับเมมโมรี่การ์ดสูงสุด 256 GB
ใช้งานร่วมกับ แอปพลิเคชัน Autel Sky
เชื่อมต่อมือถือ (Android, iOS)
ขอใบอนุญาตบินและขึ้นทะเบียนในประเทศไทยได้

เล็ก เบา พับเก็บได้

Autel EVO Nano ออกแบบมาเพื่อให้เป็นโดรนติดกล้องสำหรับพกพาอยากสมบูรณ์แบบ ด้วยฟังก์ชั่นปีกที่สามารถพับเก็บได้ ซึ่งเมื่อพับแล้วตัวลำจะมีขนาดเล็กเพียงฝ่ามือเท่านั้น สะดวกต่อการจัดเก็บและพกพา นอกจากนี้ยัง ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเพียง 249 กรัม ทำให้ตัวโดรนจัดใน Toy grade ที่สามารถพกพาไปบินต่างประเทศได้โดยไม่ต้องขึ้นทะเบียน (ขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดของแต่ละประเทศ ควรตรวจสอบก่อนขึ้นบิน)

ประสิทธิภาพกล้อง

EVO Nano มีว่างจำหน่ายด้วยกันสองรุ่น คือ รุ่น Nano มาตรฐาน ที่ให้กล้องเซ็นเซอร์ขนาด 1/2" CMOS f/2.8 ความละเอียดภาพนิ่ง 48 ล้านพิกเซล และรุ่น Nano+ ที่ให้ขนาดเซ็นเซอร์กล้องใหญ่กว่าที่ 1/1.28'' CMOS f/1.9 ทำให้ได้ความละเอียดภาพนิ่งสูงกว่าที่ 50 ล้านพิกเซล ซึ่งนี่เป็นเพียงความแตกต่างเดียวของทั้ง 2 รุ่น สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป อาจไม่ต้องใส่ใจมากนัก แต่สำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ ขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่กว่าย่อมส่งผลให้คุณภาพผลงานนั้นสูงกว่าอย่างแน่นอน

ทั้ง Nano และ Nano+ สามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 4K/30fps รายละเอียดแสงสีความคมชัดระดับ HDR Video พร้อมด้วยระกันสั่นแบบ กิมบอล 3 แกน ตอบสนองต่อการสั่นไหวได้รวดเร็ว ช่วยให้ภาพวีดีโอของเราลื่นไหล นิ่งสมูต ไม่สะดุด แถมรองรับเมมโมรี่การ์ดได้สูงสุดถึง 256 GB

ประสิทธิภาพการบิน

EVO Nano แม้เป็นโดรนขนาดเล็กแต่ก็มีประสิทธิภาพการบินสนุกไม่แพ้โดรนรุ่นใหญ่ ด้วยเวลาบินนานสุงสุดถึง 28 นาที และสามารถบินได้ไกลสูงสุดถึง 10 กิโลเมตร (ไม่มีสัญญาณรบกวน) ไม่ว่าจะเป็นบินเล่นๆ สนุกๆ หรือใช้งานถ่ายภาพถ่ายวีดีโอ งานโปรดักชั่น งานบินสำรวจ ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ระยะบินกว้าง ทำงานต่อเนื่องได้ไม่ต้องลงมาเปลี่ยนแบตบ่อยๆ

ระบบความปลอดภัย

EVO Nano มาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูง ด้วยเซ็นเซอร์กันชน 3 จุด ป้องกันการชนสิ่งกีดขว้างจากด้าน หน้า-หลัง-ล่าง พร้อมโหมดอำนวยความสะดวก ขึ้นบินอัตโนมัติ Take-Off และ บินกลับอัตโนมัติ Return Home

ฟังก์ชั่นอัตโนมัติ

โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ Panorama และ Time-Lapse พร้อมเพิ่มโหมดติดตามและโหมดถ่ายวีดีโออัตโนมัติ 4 รูปแบบ Rocket, Orbit, Flick และ Fade Away ผู้ช่วยสำหรับนักบินมือใหม่ให้สามารถถ่ายวิดีโอช็อตสวยๆ ได้ง่ายๆ ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว

แอปพลิเคชั่น Autel Sky

ตั้งแต่การบิน การถ่ายทำ ไปจนถึงการตัดต่อ autel sky คือคู่หูที่ช่างภาพวิดีโอทุกคนต้องมีต้องมี นอกจากเป็นแอปควบคุมสั่งงานโดรนแล้ว เรายังสามารถนำฟุตเทจที่ถ่ายมาตัดต่อ ทำวีดีโอไฮไลท์ พร้อมอัพเดตลงโซเชียลมีเดียได้ทันที โดยใช้เทมเพลตวิดีโอและเพลงประกอบถูกลิขสิทธิ์ที่มีให้เลือกมากมายภายในแอป

ใช้ได้ทั้งมือถือ Android และ iOS

EVO Nano ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Autel Sky ซึ่งเป็นแอปเฉพาะที่รองรับมือถือสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 2000+ รุ่น จากหลากหลายแบรนด์ ทั้งในระบบ Android และ iOS

(Apple, Samsung, Xiaomi, Huawei, Oppo, Vivo, Motorola, LG, Google, OnePlus, Sony, Tablet)

มีสีให้เลือก

ทำไมต้องมีแต่สีเดียว!? ไม่ซ้ำซากจำเจ EVO Nano เปิดตัวพร้อมสีสันสดใสที่มีให้เลือกกันถึง 4 สี Gray, Orange, White และ Red